ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ ทีทีบี เดินหน้าสู่เป้าหมาย “ผู้นำด้านการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดี ให้กับคนไทย” ลุยยกระดับทรานฟอร์ม บริการ-การทำธุรกรรม-ลดต้นทุน ผ่าน 3 แกนหลัก พร้อมสู้ศึก Virtual Bank พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วยความยั่งยืนผ่านแนวคิด B+ESG
นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ ttb สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2567 ยังคงตั้งเป้าหมายสู่การเป็น “ธนาคารผู้นำด้านการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดี ให้กับคนไทย“ หรือ The Bank of Financial Well-being ซึ่งเป็นโรดแมปของธนาคารที่จะทำเข้มข้นมากขึ้น และหลังจากนี้จะผูกในเรื่องของความยั่งยืนเข้าไปในการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด B+ESG โดยจะดำเนินผ่าน 3 แกนหลัก ได้แก่ 1.Digital Transformation 2.Revenue Model Transformation และ 3.Channel & Process Transformation
ทั้งนี้ ในส่วนของ Digital Transformation ธนาคารนำข้อมูล (Data) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการทำงานและให้บริการที่ตรงจุด ตรงใจ ในต้นทุนที่ถูกลง ซึ่งจะเกินคำว่า “Beyond Banking” โดยธนาคารจะเป็น The First Bank ที่ใช้ AI เข้าไปใน Chat Bot ที่ชื่อว่า “Yindee” ที่เป็น Open AI จะมีความละเอียดมากขึ้น
การใช้ Data Analytics และ Personalized AI Engine ในการยกระดับประสบการณ์การให้บริการลูกค้า ในระดับเฉพาะบุคคล หรือ “Segment of One” ซึ่งช่วยดึงลูกค้ามาใช้งานเรามากขึ้น และหลังจากการทำ Personalized Banking ส่งผลให้เราสามารถขายของลูกค้าตรงมากขึ้น โดยขายของเพิ่มขึ้น 2 เท่า
นอกจากนี้ ส่งมอบข้อเสนอ แจ้งเตือน และแนะนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับลูกค้าผ่าน Personalized Message มากกว่า 4 ล้านราย ผ่าน 18 ล้านข้อความต่อวัน บนแอป ttb touch ซึ่งนับเป็นจุดเด่นของโมบายแอปพลิเคชันของทีทีบี
“เรามี Personalized Limit Setup ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า 1 ล้านคนตั้งค่าวงเงินการโอนเงินสูงกว่าใช้จริง ภายหลังเรามีคำแนะนำ มีลูกค้ามากกว่า 1.25 แสนคนเข้าไปทำตามคำแนะนำ และมึ 2.5 หมื่นรายปรับลดวงเงินตามคำแนะนำ เพราะหากดูปัจจุบันบัญชีม้าใช้เวลาเพียง 17 วินาที ในการโอนเงินไปบัญชีม้า หลังจากที่เราทำเรื่องนี้ทำให้เราสามารถจับบัญชีม้าได้เป็นหลักพันหลักหมื่น และวันนี้บัญชีม้าเหลือหลัก Single Digit“
และ 2.Revenue Model Transformation ภายหลังมีธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) ธนาคารจะสู้ได้อย่างไร ดังนั้น ธนาคารจึงใช้จุดแข็งที่มีอยู่ คือ พอร์ตสินเชื่อรถยนต์ที่ใหญ่ โดยธนาคารจะเข้าไปดูวงจรรถยนต์ ทั้งการซื้อรถ การใช้รถ และการขายรถ โดยสร้างการเติบโตของธุรกิจในรูปแบบ Ecosystem ไปพร้อมกับลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ
ปัจจุบันธนาคารได้พัฒนาแพลตฟอร์ม “Roddonjai.com” ช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือกที่สะดวก ง่าย และมั่นใจมากขึ้นในการซื้อ-ขายรถมือสอง ปัจจุบันมีจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์มากกว่า 1.9 ล้านคนต่อเดือน มีรถยนต์บนแพลตฟอร์มให้เลือกมากกว่า 65,000 คัน โดยกว่า 50% ของรถยนต์ที่ขายได้มีการจัดสินเชื่อรถยนต์ ttb DRIVE
สำหรับลูกค้าที่ใช้งานแอป ttb touch สามารถบริหารจัดการเรื่องรถได้ง่าย ๆ ผ่านฟีเจอร์ My Car ตั้งแต่สนใจอยากซื้อรถ ต่อประกันรถ พ.ร.บ. และภาษีรถ เติมเงิน-เช็กยอด Easy Pass จนถึงขายรถผ่านลานประมูล หรือผ่าน Roddonjai.com โดยมีลูกค้าให้ความสนใจเพิ่มข้อมูลรถยนต์เพื่อใช้บริการแล้วมากกว่า 800,000 คัน
นอกจากนี้ สำหรับคนมีบ้าน ทีทีบี…เป็นมากกว่าสินเชื่อบ้านด้วยฟีเจอร์ My Home บนแอป ttb touch ผู้ช่วยจัดการเรื่องบ้านแบบครบวงจรที่รวมการจ่ายบิลเกี่ยวกับบ้านไว้ที่เดียว โดยปัจจุบันมีลูกค้าสนใจเพิ่มข้อมูลบ้านเพื่อใช้บริการฟีเจอร์นี้มากกว่า 580,000 หลัง
และกลุ่มพนักงานเงินเดือน ทีทีบีเป็นมากกว่าบัญชีเงินเดือน ด้วย ttb payroll solution ที่ให้สิทธิพิเศษที่ตอบโจทย์และมากกว่าทั้งในส่วนของพนักงาน และนายจ้าง ทั้งโซลูชันทางการเงินที่ช่วยพนักงานพิชิตหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงโซลูชั่น My Work ระบบบริหารงานบุคคลตอบโจทย์มืออาชีพ ทำให้ไตรมาส 3 ปีนี้ จำนวนบริษัทที่ใช้บริการ ttb payroll solution เติบโตขึ้น ถึง 43% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
สำหรับกลุ่มลูกค้า Wealth Ecosystem ทีทีบีสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอด AUM ได้อย่างต่อเนื่อง จากการมุ่งเน้นการนำเสนอบัญชีเงินตราต่างประเทศ (FCD) ในกลุ่มลูกค้า Wealth with Kids ทำให้มีการเปิดบัญชี FCD เพิ่มขึ้นกว่า 2,600 บัญชี มียอดเงินฝาก 4,120 ล้านบาท การออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Wellness Solutions ทั้งกองทุน Term Fund หุ้นกู้ Structured Note และกองทุน Structured Fund และจากเอกสิทธิ์อันคุ้มค่าจากบัตรเครดิต ttb reserve ยอดการใช้จ่ายสะสมผ่านบัตรโดยรวมตั้งแต่ต้นปีเติบโตถึง 38% เทียบกับปีก่อนหน้า
และ 3.Channel & Process Transformation การพัฒนาช่องทางและกระบวนการเพื่อยกระดับประสบการณ์การทำธุรกรรม โดยจากการเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการให้บริการด้วย Digital-first Operating Model ทำให้วันนี้ 92% ของปริมาณธุรกรรมทางการเงินของทีทีบีเกิดขึ้นบนช่องทางแอป ttb touch ทำให้พนักงานในสาขาสามารถมีเวลามากขึ้น ในการให้คำแนะนำและบริการลูกค้า
และเมื่อไตรมาสที่ 2 ของปี ธนาคารได้เปิดตัวฟีเจอร์ My Credit เพื่อช่วยลูกค้าประเมินวงเงินสินเชื่อเบื้องต้น รู้ผลภายใน 2 นาที พร้อมยื่นขอสินเชื่อได้ทันทีผ่านแอป ttb touch ซึ่งภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน มีการเข้าชมฟีเจอร์นี้มากกว่า 1.52 แสนครั้ง และสมัครขอสินเชื่อแล้ว กว่า 3.6 หมื่นราย
“Game Changer คือ My Credit ที่จะเข้ามาเปลี่ยนภาพการปล่อยสินเชื่อ เพราะลูกค้าจะรู้ผลภายใน 2 นาที ต่อไปจะพลิกธุรกิจใหม่ ส่วนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนภายใต้กรอบ B+ESG จะเป็นปัญหาหนี้ครัวเรือน ที่เราเข้าไปช่วยเหลือพนักงานและบริษัทในการให้คำปรึกษาผ่านโค้ชแก้หนี้ ตรวจสุขภาพหนี้
ซึ่งปัจจุบันมีโค้ชราว 50 คน คาดว่าภายในปี’68 จะเพิ่มโค้ชเป็น 70-100 คน และขยายบริษัทที่จะเข้าร่วมแก้หนี้ และเฟส 3 จะยกแฟลตฟอร์ม “Financial Health Check“ เป็นแอปพลิเคชั่นสาธารณะให้คนเข้ามาเช็กสุขภาพได้”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Post a Comment