เผ่าภูมิ มองเงินเฟ้อปีหน้า 2% หากนโยบายการเงิน-การคลัง หากประสานร่วมกัน ชี้ค่าเงินบาทอยู่ในอัตราที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติแผนการเงินตามที่กระทรวงการคลัง เสนอกรอบเงินเฟ้อ ปี 2568 อยู่ที่ระดับ 1-3% ว่าอัตราเงินเฟ้อในปี’68 มีความเป็นไปได้ที่ค่ากลางจะอยู่ระดับ 2% ซึ่งกระทรวงการคลังมีหน้าที่ดูว่าเศรษฐกิจฝืด หรือมีทิศทางเป็นอย่างไร และต้องเข้าไปกระตุ้นด้วยมาตรการทางการคลัง ซึ่งปัจจุบันต้องยอมรับว่าภาคการคลังมีพื้นที่จำกัด
ในขณะที่มาตรการทางการเงินต้องเข้าไปดูเรื่องอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีผลกระทบโดยตรงกับเรื่องเงินเฟ้อ ทั้ง 2 ฝ่ายต้องช่วยกัน ตามข้อตกลงเพื่อผลักดันให้เงินเฟ้อขยับสู่ค่ากลางที่ 2% ให้ได้นั้น ต้องมีมาตรการออกมาดูแล
“รัฐบาลจะต้องรักษาโมเมนตัมทางเศรษฐกิจ ต้องดูว่าช่วงไหนที่จะผลักหรือชะลอ เพราะฉะนั้นก็ต้องดูความเหมาะสมและกระจายเม็ดเงิน ซึ่งนั่นรวมถึงเรื่องข้อจํากัดของพื้นที่การคลัง” นายเผ่าภูมิกล่าว
ในขณะที่เรื่องค่าเงินบาท มองว่าอัตราแลกเปลี่ยนต้องอยู่ในเรตที่แข่งขันได้ ไม่ผันผวนจนเกินไป โดยต้องดูค่าเงินบาทเปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่งไทย รักษาค่าเงินบาทให้สามารถเกาะกลุ่มให้ได้ โดยการผันผวนของค่าเงินเป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องเข้าไปแทรกแซงดูแล เพื่อไม่ให้กระทบต่อกลุ่มผู้ส่งออก
ทั้งนี้ โดยมองว่าการเข้าไปแทรกแซงค่าเงินบาทเพียงอย่างเดียว ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ค่าเงินบาทอยู่ในระดับที่เหมาะสม จะต้องดูระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายทางการเงินในภาพรวมด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มองว่าค่าเงินบาทอยู่ในอัตราที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ยังมีมาตรการในเรื่องการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนใหม่ ๆ เช่น การมุ่งสร้างประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการเงิน (Thailand Financial Center) ผ่านพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ศูนย์กลางทางการเงิน ซึ่งจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนก้อนใหญ่จากธุรกิจการเงินระหว่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทย โดยขณะนี้เกือบสมบูรณ์แล้ว คาดว่าจะสามารถเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ไม่เกินเดือน ก.พ. 68
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Post a Comment