อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ พร้อม 9 พระพุทธรูปโบราณ ให้ประชาชนสักการะรับปีใหม่


รับปีใหม่ 2568 กรมศิลปากร อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ พร้อมพระพุทธรูปโบราณ 9 องค์ จาก 9 เมืองเก่าแก่ของไทย ให้ประชาชนสักการะ ที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ถึง 5 มกราคม 2568

เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2568 กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ได้จัดกิจกรรม สักการะพระพุทธรูปวังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน “นบพระปฏิมา ๙ นครามหามงคล ๒๕๖๘” อัญเชิญพระพุทธรูปที่มีพุทธศิลป์อันงดงาม มีประวัติความเป็นมาจากนครโบราณต่าง ๆ ของไทย มาประดิษฐานให้ประชาชนได้สักการบูชา ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เพื่ออำนวยความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลในวาระแห่งการเริ่มต้นศักราชใหม่

โดยมีพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) เป็นประธาน พร้อมด้วยพระพุทธรูปอีก 9 องค์ ที่จัดแสดงและสงวนรักษาไว้ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จำนวน 4 องค์, คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดปทุมธานี จำนวน 3 องค์, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี จำนวน 1 องค์ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา จำนวน 1 องค์ ประกอบด้วย

พระพุทธสิหิงค์
พระพุทธสิหิงค์

พระพุทธสิหิงค์

  • ศิลปะล้านนา ปลายพุทธศตวรรษที่ 21 (500 ปีมาแล้ว)
  • ขนาดสูงพร้อมฐาน 135 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 63 เซนติเมตร  องค์พระสูง  79 เซนติเมตร

สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท (วังหน้าพระองค์แรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์) ทรงอัญเชิญมาจากเมืองเชียงใหม่เมื่อพุทธศักราช 2338 ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

พระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปสัมฤทธิ์กะไหล่ทอง ประทับขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ทั้งสองวางซ้อนกันบนพระเพลาแสดงปางสมาธิ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) ตามตำนานพระพุทธสิหิงค์ได้รับการอัญเชิญไปประดิษฐานเป็นสิริยังพระนครหลวงโบราณหลายแห่ง นับแต่สุโขทัย เชียงใหม่ พระนครศรีอยุธยา จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์

พระพุทธรูปปางมารวิชัย เมืองเชียงใหม่
พระพุทธรูปปางมารวิชัย เมืองเชียงใหม่

พระพุทธรูปปางมารวิชัย เมืองเชียงใหม่

  • ศิลปะล้านนา พุทธศตวรรษที่ 19-20 (600-700 ปีมาแล้ว)
  • ขนาดสูงพร้อมฐาน 31.2 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 14.3 เซนติเมตร

พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย ประทับขัดสมาธิราบ พระวรกายเพรียวบาง และชายสังฆาฏิเป็นแถบเล็กยาวพาดพระอังสาเหนือพระนาภี ใกล้เคียงกับพระพุทธรูปแบบเชียงแสนสิงห์หนึ่งกลุ่มที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะสุโขทัย พระพุทธรูปองค์นี้ มีประวัติระบุว่าชาวกะเหรี่ยงขุดได้จึงนำมาถวายครูบาเจ้าศรีวิชัย ครั้งสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จประพาสมณฑลพายัพ พ.ศ. 2464 ครูบาเจ้าศรีวิชัยจึงถวายสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ

พระพุทธรูปยืนปางแสดงธรรม 2 พระหัตถ์ เมืองลพบุรี
พระพุทธรูปยืนปางแสดงธรรม 2 พระหัตถ์ เมืองลพบุรี

พระพุทธรูปยืนปางแสดงธรรม 2 พระหัตถ์ เมืองลพบุรี

  • ศิลปะลพบุรี พุทธศตวรรษที่ 18-19 (700-800 ปีมาแล้ว)
  • ขนาดสูงพร้อมฐาน 65 เซนติเมตร กว้าง 23 เซนติเมตร

พระพุทธรูปยืนทรงเครื่องแสดงปางประทานอภัย 2 พระหัตถ์ พระองค์นี้จัดอยู่ในกลุ่มพระพุทธรูปศิลปะลพบุรี ที่สืบเนื่องมาจากพระพุทธรูปในศิลปะเขมรโบราณแบบบายน รูปแบบพระพุทธรูปลักษณะดังกล่าวพบมากในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะที่ “เมืองลพบุรี” ในเวลาต่อมากลุ่มชนชั้นปกครองของเมืองลพบุรีที่ปัจจุบันรู้จักกันในนาม “ราชวงศ์อู่ทอง” ได้รวมอำนาจเข้ากับราชวงศ์สุพรรณภูมิสถาปนากรุงศรีอยุธยาขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1893

พระพุทธรูปปางมารวิชัย เมืองสรรคบุรี
พระพุทธรูปปางมารวิชัย เมืองสรรคบุรี

พระพุทธรูปปางมารวิชัย เมืองสรรคบุรี

  • ศิลปะลพบุรี ก่อนอยุธยาแบบอู่ทองรุ่นที่ 1 พุทธศตวรรษที่ 19 (700 ปีมาแล้ว)
  • ขนาดสูงพร้อมฐาน 29.5 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 23 เซนติเมตร

พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย ย้ายมาจากห้องกลางกระทรวงมหาดไทย เดิมได้มาจากเมืองสรรค์ (อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท) จากพุทธศิลป์แสดงความคาบเกี่ยวกับพระพุทธรูปในช่วงปลายของศิลปะลพบุรี พบมากบริเวณเมืองโบราณก่อนสมัยอยุธยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตอำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท จนในอดีตขนานนามพระพุทธรูปกลุ่มนี้ว่า “พระเมืองสรรค์” เมื่อภายหลังการสถาปนาอาณาจักรอยุธยา เมืองสรรคบุรีจึงกลายเป็นเมืองสำคัญในฐานะเมืองลูกหลวงและเมืองหน้าด่าน

พระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย เมืองสุโขทัย
พระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย เมืองสุโขทัย

พระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย เมืองสุโขทัย

  • ศิลปะสุโขทัย พุทธศตวรรษที่ 20 (600 ปีมาแล้ว)
  • ขนาดสูงพร้อมฐาน 77 เซนติเมตร

พระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย พุทธลักษณะพระพักตร์รูปไข่ มีพระรัศมีเป็นเปลวเพลิง ครองจีวรห่มคลุมเรียบไม่มีริ้วและจีวรแนบพระวรกาย อันเป็นรูปแบบพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย บริเวณส่วนฐานด้านหลังของพระพุทธรูปมีจารึกอักษรไทยภาษาไทยสมัยรัตนโกสินทร์ว่า “วัดกะพังทอง เมืองโสกโขไทย” ดังนั้นสันนิษฐานว่าพระพุทธรูปองค์นี้ถูกเคลื่อนย้ายมาจากวัดตระพังทอง ภายในเมืองเก่าสุโขทัย

พระพิมพ์ลีลาในซุ้มเรือนแก้ว (พระกำแพงศอก) เมืองสุพรรณบุรี
พระพิมพ์ลีลาในซุ้มเรือนแก้ว (พระกำแพงศอก) เมืองสุพรรณบุรี

พระพิมพ์ลีลาในซุ้มเรือนแก้ว (พระกำแพงศอก) เมืองสุพรรณบุรี

  • ศิลปะอยุธยา พุทธศตวรรษที่ 20 (600 ปีมาแล้ว)
  • ขนาดกว้าง 11 เซนติเมตร สูง 32 เชนติเมตร

พระพิมพ์เนื้อชินรูปพระพุทธเจ้าในอิริยาบถลีลาภายในเรือนแก้ว ย้ายมาจากห้องกลางกระทรวงมหาดไทย เดิมได้มาจากจังหวัดสุพรรณบุรี พระพิมพ์แบบนี้พบมากในกรุพระปรางค์วัดพระศรีมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี จึงสันนิษฐานว่าน่าจะได้จากกรุนี้เช่นกัน และนิยมเรียกกันทั่วไปว่า “พระกำแพงศอก” ตามขนาดของพระพิมพ์ที่ค่อนข้างใหญ่ จึงไม่สามารถพกติดตัวได้ มักบูซาที่บ้านเรือน โดยมีความเชื่อถือว่าเป็นพระพิมพ์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ สามารถป้องกันอัคคีภัยได้

พระพุทธรูปปางมารวิชัย พระนครศรีอยุธยา
พระพุทธรูปปางมารวิชัย พระนครศรีอยุธยา

พระพุทธรูปปางมารวิชัย พระนครศรีอยุธยา

  • ศิลปะอยุธยาตอนต้น แบบอู่ทองรุ่นที่ 3 พุทธศตวรรษที่ 20 (600 ปีมาแล้ว)
  • ขนาดสูงพร้อมฐาน 54.5 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 26 เซนติเมตร

พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัยองค์นี้ ได้จากกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่21-23 ธันวาคม พ.ศ. 2501 พุทธศิลปะของพระพุทธรูปองค์นี้นักวิชาการเรียกว่า “ศิลปะแบบอู่ทอง” ด้วยเชื่อว่ารูปแบบศิลปะนี้เกิดขึ้นในช่วงของรัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือพระเจ้าอู่ทอง และจำแนกออกเป็น 3 รุ่น

สำหรับวัดราชบูรณะสถานที่พบพระพุทธรูปองค์นี้นั้น สร้างขึ้นโดยพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) จากการขุดค้นภายในกรุพระปรางค์ พบพระพุทธรูปศิลปะต่าง ๆ จำนวนมาก โดยพระพุทธรูปในกลุ่มศิลปะแบบอู่ทองรุ่นที่ 3 พบมากที่สุดจำนวนกว่า 356 องค์

พระพุทธรูปปางมารวิชัย เมืองนครศรีธรรมราช
พระพุทธรูปปางมารวิชัย เมืองนครศรีธรรมราช

พระพุทธรูปปางมารวิชัย เมืองนครศรีธรรมราช

  • ศิลปะอยุธยา สกุลช่างนครศรีธรรมราช พุทธศตวรรษที่ 21-22 (400-500 ปีมาแล้ว)
  • ขนาดสูงพร้อมฐาน 59 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 27.5 เซนติเมตร

พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัยสกุลช่างนครศรีธรรมราชองค์นี้ เป็นสมบัติเดิมของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร นำไปจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2522 เป็นพระพุทธรูปกลุ่มที่ได้รับรูปแบบมาจากพระพุทธรูปขัดสมาธิเพชรสมัยอยุธยาตอนกลาง (พุทธศตวรรษที่ 21-ต้นพุทธศตวรรษที่ 23)

โดยมีแรงบันดาลใจและรูปแบบจากพระพุทธสิหิงค์ หรือพระพุทธรูปขัดสมาธิเพชร ศิลปะล้านนา ตามตำนานระบุว่าเมื่อพระพุทธสิหิงค์เชิญมาจากประเทศศรีลังกาเคยพักประดิษฐานที่นครศรีธรรมราชก่อนอัญเชิญไปเมืองสุโขทัย

พระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย 2 พระหัตถ์ เมืองพิษณุโลก
พระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย 2 พระหัตถ์ เมืองพิษณุโลก

พระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย 2 พระหัตถ์ เมืองพิษณุโลก

  • ศิลปะอยุธยาตอนกลาง พุทธศตวรรษที่ 21-22 (400-500 ปีมาแล้ว)
  • ขนาดสูงพร้อมฐาน 50.5 เซนติเมตร กว้าง 13.5 เซนติเมตร

พระพุทธรูปยืนทรงเครื่องน้อย ตามประวัติกล่าวว่าได้มาจากพื้นที่มณฑลพิษณุโลก ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2435 ประกอบด้วยเมืองพิจิตร เมืองพิชัย เมืองสวรรคโลก เมืองสุโขทัย และเมืองพิษณุโลก โดยมีเมืองเอกคือเมืองพิษณุโลก

พระชัยเมืองนครราชสีมา เมืองนครราชสีมา
พระชัยเมืองนครราชสีมา เมืองนครราชสีมา

พระชัยเมืองนครราชสีมา เมืองนครราชสีมา

  • ศิลปะอยุธยา พุทธศตวรรษที่ 22-23 (300-400 ปีมาแล้ว)
  • ขนาดสูงพร้อมฐาน 25 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 15.4 เซนติเมตร

พระพุทธรูปปางมารวิชัยบนพระวรกายโดยรอบปรากฎมีจารึกพระคาถาอักษรขอม คติการสร้างพระชัยประจำตัวแม่ทัพยึดถือปฏิบัติมาแต่โบราณ เพื่อคุ้มครองป้องกันภัย นอกจากนี้ยังพบการสร้างพระชัยสำหรับเมืองเพื่อเป็นมิ่งขวัญและสวัสดิมงคล ดังตัวอย่าง พระชัยเมืองนครราชสีมา เมืองหน้าด่านสำคัญที่ป้องกันข้าศึกจากทิศตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือ

ขอเชิญพุทธศาสนิกชนสักการะพระพุทธรูปวังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน “นบพระปฏิมา ๙ นครามหามงคล ๒๕๖๘” ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2568 เวลา 09.00 น. – 16.00 น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ

พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

อ่านข่าวต้นฉบับ: อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ พร้อม 9 พระพุทธรูปโบราณ ให้ประชาชนสักการะรับปีใหม่



Source link

Post a Comment

Previous Post Next Post